บทคัดย่อ
รายงานผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้เป็นฐาน เรื่องวิถีชีวิตลุ่มน้ำกวงสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลการพัฒนาการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้เป็นฐาน เรื่อง วิถีชีวิตลุ่มน้ำกวง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และศึกษาความคิดเห็นที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้เป็นฐาน เรื่องวิถีชีวิตลุ่มน้ำกวงสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มเป้าหมายที่ใช้คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 1ปีการศึกษา 2557 จำนวน 43 คน โดยแบ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 จำนวน 21 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 จำนวน 22 คน เนื้อหาที่ใช้ในการศึกษา คือการจัดการเรียนรู้โดยใช้ฐานข้อมูลภูมิปัญญาและแหล่งเรียนรู้โรงเรียนชลประทานผาแตก เรื่อง เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วยแผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม จำนวน 3 แผน แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ จำนวน 1 แผน แผนการจัดการเรียนรู้สาระประวัติศาสตร์ จำนวน 1 แผน แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา จำนวน 1 แผน แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนเป็นแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ แบบสอบถามความคิดเห็นของครูและนักเรียน ใช้ค่าสถิติได้แก่ค่าร้อยละ และการวิเคราะห์หาค่าความสอดคล้อง
ผลการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นเป็นฐานเรื่องวิถีชีวิตลุ่มน้ำกวง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1สรุปได้ดังนี้
1. คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง วิถีชีวิตลุ่มน้ำกวงสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม สาระประวัติศาสตร์ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สาระการเรียนรู้ศิลปะ
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยการเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่านักเรียนมีพัฒนาการทางการเรียนจำนวน 43 คน ส่วนคะแนนผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยรวม ร้อยละ 53.36 และคะแนนผลสัมฤทธิ์หลังเรียนมีค่าเฉลี่ยรวม ร้อยละ 78.13
2. ความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แหล่งเรียนรู้เป็นฐาน ด้านบรรยากาศพบว่าผู้เรียนมีความสนุกสนานจำนวนมากที่สุดโดยมีค่าเฉลี่ยร้อยละ 30.23 ด้านการมีส่วนร่วมนักเรียนได้ร่วมกิจกรรมทุกคนมีจำนวน อยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 55.81 และด้านความรู้ นักเรียนได้รับความรู้เรื่อง ทำเลที่ตั้งและสิ่งแวดล้อมใหม่ที่เกิดขึ้นในชุมชนมีระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 44.19
|